แชร์ลูกโซ่ เป็นขบวนการที่มีลักษณะชวนคนมาเป็นสมาชิก โดยต้องจ่ายค่าสมัครและมีหน้าที่ไปชวนคนอื่นมาสมัครเป็นสมาชิกต่อเนื่อง หากมีคนมาสมัครก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น(ค่าหัวคิว)จนได้เงินที่จ่ายไปครั้งแรกคืน และสมาชิกจะหาสมาชิกใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ จนเป็นเครือข่ายพีระมิดซึ่งวิธีการจะคล้ายกับการขยายฐานสมาชิกของธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น (MLM)
ในประเทศไทย ถือว่า แชร์ลูกโซ่ "ผิดกฎหมาย" จึงมีการแอบแฝง สร้างฉากเอาธุรกิจมาบังหน้า ทำทีว่าเป็นบริษัทขายสินค้า และบริการสารพัดสารพัน แต่โดยเนื้อแท้แล้วบริษัทพวกนี้มุ่งที่จะเอาเงินสมาชิกใหม่ มาหมุนใช้และจ่ายค่าตอบแทนสมาชิกเก่า ซึ่งโดยธรรมชาติของแชร์ลูกโซ่มันจะมีระยะเวลา เมื่อครบวงจร จะไม่สามารถหาเงินมาตอบแทนสมาชิกทั้งหมดได้ เมื่อนั้นบรรดามิจฉาชีพก็จะปิดกิจการ หลบหนีไปสร้างความเสียหายให้กับสมาชิกที่ร่วมลงทุน
วิดิโอ แชร์ลูกโซ่ ตอนที่ 1
โดย นางรัศมี วิศทเวทย์ : อดีตเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
หมายเหตุ
1. เมื่อกดปุ่ม เล่น(play) จะมีการส่งผ่านข้อมูลBuffering และอาจมีการสะดุดเป็นระยะๆระหว่างการเล่น
2. เมื่อการเล่นวิดิโอรอบแรกจบลง ให้กดปุ่ม เล่น(play) ซ้ำอีกครั้ง จะสามารถรับชมวิดิโอได้อย่างต่อเนื่อง และไม่สะดุด
3. ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณ มีผลกับการแสดงไฟล์วิดิโอ
วิดิโอ แชร์ลูกโซ่ ตอนที่ 2
โดย นางรัศมี วิศทเวทย์ : อดีตเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
หลักการของแชร์ลูกโซ่
1. กำไรสูงอย่างไม่น่าเชื่อ : ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนน้อยๆ เพราะธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนเป็น "ธุรกิจมหัศจรรย์" ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกรรม อุ้ย! เป็นกอบเป็นกำ อย่างที่ไม่มีใครในโลกจะปฏิเสธผลกำไรที่แสนจะงดงามแบบนั้นได้ลงคอ
2. ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ให้ผลตอบแทนช้า : เพราะถ้าได้เงินช้ามันก็ไม่ใช่ธุรกิจมหัศจรรย์น่ะสิ แถมยังอาจจะไม่ทันอกทันใจนักลงทุนที่อยากเห็นเงินก้อนโตภายในเวลาไม่กี่เดือน เพราะฉะนั้น คำโฆษณาชวนเชื่อที่ได้ยินกันบ่อยๆ ก็หนีไม่พ้น
- รวยเห็นๆ 6 เดือน 266%
- 10 เดือนกำไร 222%
- กำไรเดือนละ 68%
- กำไรทุกวัน วันละ 3% ทุก 15 วัน รับไปเลย 7.6% แค่ 60 วัน ได้ 142%
ทั้งๆ ที่การลงทุนที่ให้กำไรสูงๆ ในเวลาสั้นๆ มักไม่มีจริง
พ.ต.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มือปราบแชร์ลูกโซ่ กล่าวว่า "ถ้าเป็นการทำธุรกิจปกติ การทำกำไรให้ได้เกิน 20% ต่อปี คงจะเป็นเรื่องยาก หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้น หากมีการเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า 20% ต่อปี หรือผลตอบแทนที่สูงมากในช่วงเวลาสั้นๆ เช่น 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือแม้แต่ 1 ปี ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจจะเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่"
3. ไม่ต้องลงแรง แค่ลงเงิน : ไม่มีแชร์ลูกโซ่รายไหนที่บอกว่า คิดจะลงทุนต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้กำไร แต่ดูเหมือนว่าเงินจะงอกเงยออกมาอย่างรวดเร็วจนเก็บเกี่ยวกันแทบไม่ทัน ทุกอย่างดูง่ายดาย ไม่ต้องใช้แรงกาย ไม่ต้องขายสินค้า เพียงแต่ต้องใช้ "เงินต่อเงิน"เพราะฉะนั้น ...
- ไม่ต้องมีปั๊มน้ำมันเป็นของตัวเอง ไม่ต้องลงทุนซื้อรถบรรทุกน้ำมัน ก็เป็น “เศรษฐีน้ำมัน” ได้
- ไม่ต้องไปก้มๆ เงยๆ ปลูกข้าวให้เสียเวลา ไม่ต้องไปลุ้นว่า น้ำจะท่วม นาจะล่ม เพราะแค่มีเงิน 1,450 บาท ก็ร่วมถือหุ้นกับบริษัทผู้ส่งออกข้าวสารได้แล้ว
- เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเองอาจจะเหนื่อยตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ถ้าลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวแบบแฟรนไชส์ นอกจากจะไม่ต้องวุ่นวายแล้ว ยังได้ทั้งเงินต้นและกำไร ภายในเวลาเพียงแค่ 10 เดือน
- ไปเก็งกำไรซื้อขายยางพารากันไหม ไม่ต้องมีความรู้ ไม่ต้องไปซื้อขายเอง ลงทุน 1 แสนบาท เดือนเดียวได้กำไร 6,000 บาทแล้ว
- แค่มีอินเทอร์เน็ตกับเงินลงทุนนิดหน่อยก็มีโอกาสลุ้นโบนัสก้อนโต 1 หมื่นเหรียญสหรัฐ
"ทั้งๆ ที่ไม่มีธุรกิจไหนเลยที่สามารถทำกำไรได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องมีความรู้และความเข้าใจในธุรกิจนั้นแม้สักนิดเดียว"
แต่อย่าถามว่าจะต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง นั่นเพราะแชร์ลูกโซ่เป็นธุรกิจมหัศจรรย์ (จริงๆ) ที่สามารถพลิกแพลงให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างไม่เคอะเขิน เพราะฉะนั้นไม่มีใครบอกได้ว่าจะเป็นสินค้าอะไร หรือบริการแบบไหน เพราะสินค้าทุกชนิดและบริการทุกแบบสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือของแชร์ลูกโซ่ได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดัชนีหุ้น วันพักผ่อน ข้าวสาร รถเช่า เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำตาล ยางพารา ก๋วยเตี๋ยว บัตรเติมเงิน ไปจนถึงจานดาวเทียม ฯลฯ ซึ่งมักจะเป็นสินค้าที่กำลังได้รับความสนใจในแต่ละยุคแต่ละสมัย ขณะที่รูปแบบการทำกำไรจะมีทั้งการลงทุนในสินค้า และแอบแฝงมาในรูปแบบของธุรกิจขายตรง ที่ใช้การตลาดหลายชั้น (MLM) รวมทั้งธุรกิจแฟรนไชส์ ถ้าเป็นแชร์ลูกโซ่ที่แฝงตัวมาในแบบของ MLM ก็ให้สังเกตง่ายๆ ว่า มักจะเป็นงานขายที่ง่ายกว่าการขายทั่วๆ ไป เพราะเป็นงานขายที่ไม่ต้องขาย เรามีหน้าที่เพียงแค่ไปตามหา "ผู้โชคดีคนต่อไป" เท่านั้นเอง
ดังนั้น เมื่อเป็นงานขายที่ไม่ต้องขาย ก็ทำให้สัดส่วนของรายได้หลัก มาจากการหาสมาชิกมากกว่าการขายสินค้า เพราะการจะมาเป็นสมาชิกต้อง "เสียค่าสมัคร" แถมด้วยการบังคับให้ซื้อสินค้าที่บอกว่า คุณภาพยอดเยี่ยมสุดยอดไม่มีที่ไหนเทียบได้ (แต่กลับไม่เน้นการขายสินค้า) "ถ้าเป็น MLM จริงๆ จะต้องไม่มีการบังคับซื้อสินค้า และรายได้หลักนั้น จะต้องมาจากการขายสินค้าไม่ใช่การหาสมาชิก ซึ่งมีหลายบริษัทที่มาจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรงที่ถูกต้อง แต่พอทำไปสักระยะก็เปลี่ยนรูปแบบการตลาดไปเป็นแชร์ลูกโซ่" มือปราบแชร์ลูกโซ่ให้ข้อสังเกต
4. เงินเก่าจ่ายเงินใหม่ : ไม่มีเจ้ามือแชร์ลูกโซ่รายไหนที่ได้เงินงวดแรกแล้วเชิดหนีไป แต่จะ "วางเหยื่อล่อ" ให้เข้ามาติดกับดักกันมากๆ แล้วค่อยชิ่งหนี เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม เพราะฉะนั้น คนลงทุนในช่วงแรกจะได้กำไรจริง ได้จับเงินจริง แล้วมิจฉาชีพพวกนี้จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้กับนักลงทุน ถ้าไม่ใช่นำเงินของคนที่เข้ามาใหม่จ่ายให้คนที่เข้ามาก่อน เพราะฉะนั้นพวกนี้จึงพยายามให้เราไปชักชวนญาติพี่น้องเข้ามาติดบ่วงกันถ้วนหน้า ขณะที่เราก็คนไทยน้ำใจดีเห็นการลงทุนที่กำไรดี กำไรเร็ว ก็อยากให้ญาติมิตรได้รวยเหมือนๆ กัน ไปชักชวนกันมาทั้งหมู่บ้าน แล้วก็พากันล่มจมไปตามๆ กัน เพราะกว่าจะรู้ตัวเจ้ามือใหญ่ก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว
เจ้ามือพวกนี้จะมีอยู่ 2 แบบ คือ พวกที่กินอิ่มแล้วตีจาก กับพวกยังกินไม่อิ่มแต่ไม่มีเหยื่อให้กินอีกแล้วเลยจำเป็นต้องเผ่น
พวกแรกจะเจ็บแสบกว่ามาก เพราะกำลังเพลิดเพลินกับกำไรอยู่ดีๆ เจ้ามือเกิดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ปิดบริษัทหายไปกับความมืด แต่ถ้าเป็นพวกที่สองจะค่อยๆ มีพัฒนาการที่พอจะให้ระแคะระคายได้บ้าง เพราะจากที่จ่ายเงินตรงเวลา ก็เริ่มจ่ายช้า อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด ผ่านไปสักพักจะเริ่มจ่ายเงินไม่ครบตามที่สัญญา และก็มักจะมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือเช่นเดิม ซึ่งในช่วงนี้อาจจะติดต่อยาก หาตัวได้ลำบาก จนกระทั่งวันหนึ่งก็จากไปอย่างถาวรและพาดหัวข่าวประเภทนี้ก็จะปรากฏขึ้นมาแทน
- แจ้งจับบริษัทฝรั่ง ตุ๋นลงทุนผ่านเว็บ
- "แชร์รถทัวร์" โผล่ตุ๋นคนหาดใหญ่
- แชร์ใหม่ระบาด ส่งยางแทนเงิน เทขายฟันกำไร
- ตุ๋นแชร์ท่องเที่ยว! หอบ 20 ล. หายจ้อย
- สาวแสบโกงแชร์ 100 ล้าน ชาวแฟลตแห่พึ่ง ตร.ล่าตัว
- ดีเอสไอ ไล่จับ แชร์ % "น้ำมันทอง"
5. อาศัยจุดอ่อนเรื่องความโลภของคนเป็นเหตุ : ไม่มีแชร์ลูกโซ่แบบไหนเข้ามาทำอันตรายเราได้ ถ้าเราไม่มี "ความโลภ" เพราะเมื่อความโลภเข้าครอบงำจะทำให้สายตาพร่ามัว ไม่ติดใจสงสัยว่าผลกำไรมากมายมหาศาลที่เขายกขึ้นมาหลอกล่อเรานั้นมันทำได้จริงหรือไม่ เหยื่อแชร์ลูกโซ่มักจะมีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อที่ทำให้หลวมตัว
- ก็เขาจ่ายได้จริงๆ
- เกรงใจเพื่อนชวน
- เขาพูดน่าเชื่อถือ
แต่จะมีกี่คนที่ยอมรับว่า ที่หลงเป็นเหยื่อเพราะ "ความโลภ" ซึ่งอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในฉับพลันที่ได้รับการชักชวนให้ร่วมขบวนการ เพราะแรกๆ อาจจะไม่เชื่อ แต่พอเห็นเพื่อนเขาได้เงินกันจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอยากได้บ้าง
ลองถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วถามตัวเองว่า "ในโลกนี้มันจะมีการลงทุนอะไรที่ให้ผลตอบแทนดีขนาดนั้น" แต่ถ้าถอยออกมาแล้ว สายตาก็ยังไม่ปรับโฟกัสให้ดีขึ้น ก็ลองไปถามผู้รู้ อาทิ...
- กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ กระทรวงการคลัง สายด่วน 1359
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สายด่วน 1166
- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หมายเลขโทรศัพท์ 022193600
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 029136789 และ 028319888
หรือถ้าไม่รู้จักใครที่ไหน เข้าไปถามตำรวจในพื้นที่ก็ได้ ถ้าเขาดีจริง เขาก็คงจะไม่หายไปไหนง่ายๆ รับรองว่าได้ลงทุนแน่ๆ คิดเสียว่า ได้กำไรน้อย เพราะก้าวเข้าไปช้า ยังดีกว่าสูญเงิน เพราะก้าวเข้าไปเร็วเกินไป
Copyright © 2009 PrimaParty Team. All Rights Reserved.